วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554

JEEP WRANGLER SAHARA 2001

JEEP WRANGLER อีกหนึ่งความใฝ่ฝันของนักออฟโรด จัดว่าเป็นรถออฟโรดที่มีรูปทรงร่วมสมัยแห่งความคลาสสิคสไตล์ออฟโรดและความดุดันไว้อย่างลงตัว เรียกกันได้ว่าเดิมๆ รถก็ดูดีอยู่แล้ว ยิ่งจับมาแต่งองค์ทรงเครื่องให้มีสมรรถนะเพิ่มมากขึ้นก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่

         Mr.Guy Braverman นักธุรกิจส่งออกอัญมณี ผู้เป็นเจ้าของรถ แม้จะไม่ใช่คนไทยแต่ด้วยใจที่รักเมืองไทย และใช้ชีวิตอยู่ในไทยมานานหลายปี จนกลายเป็นชาวไทยคนหนึ่งไปแล้ว ที่สำคัญเขายังเป็นคอออฟโรดอีกด้วย เมื่อมีโอกาสก็มักจะพาภรรยาคู่ใจขับเจ้ารถคันเก่งคันนี้ เดินทางเข้าป่าออกทริปอยู่เสมอๆ

          คราวนี้มาว่ากันถึงรายละเอียดในส่วนต่างๆ ของเจ้า JEEP WRANGLER TJ SAHARA 2001 คันนี้ว่าได้ทำการตกแต่งลงไปนั้นว่ามีอะไรบ้าง และมีประสิทธิภาพการใช้งานเป็นอย่างไร
ม้ากล้ามใหญ่ 200 กว่าตัวซุกซ่อนอยู่ใต้ฝากระโปรง

         เริ่มต้นที่เรื่องของขุมพลังกันเป็นอันดับแรก เครื่องยนต์ของเจ้ารถคันนี้ใช้ระบบ SEQUENTIAL MULTIPOINT ELECTRONIC FUEL INJECTION เป็นเครื่องยนต์สูบเรียงจำนวน 6 สูบ ความจุ 4,000 ซี.ซี. ใช้น้ำมันเบนซิน (แก๊สโซลีน) เป็นเชื้อเพลิง เรียกกันในหมู่ผู้ที่ใช้รถ JEEP ว่าเครื่อง POWER TECH 16? แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 195 HP ที่ 4,600 รอบ/นาที ให้แรงบิดสูงสุดถึง 223 ปอนด์-ฟุต ที่ 2,800 รอบ/นาที
ขุมพลังที่มีทั้งหมดของเครื่องตัวนี้ถูกปรับแต่งกันใหม่ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นด้วยการเปลี่ยนกรองอากาศ จากของเดิมเปลี่ยนมาใช้กรองเปลือยขนาดยาวและใหญ่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดไอดีป้อนเข้าสู่ห้องเผาไหม้ให้มีปริมาณที่มากขึ้นด้วยกรองเปลือยของ FIPK จากประเทศสหรัฐอเมริกา แค่เฉพาะตรงนี้แรงม้าของเครื่องยนต์ก็กระเถิบเพิ่มขึ้นมาได้อีกเกือบ 9.1 HP
ยังไม่จบเท่านี้ เมื่อการบรรจุไอดีเข้าสู่ห้องเผาไหม้มากขึ้นแล้ว ก็จะมาถึงเรื่องของการระบายออก หรือการคายไอเสียของท่อไอเสีย ไอดีเข้ามากแต่ไอเสียออกไม่ทันเดี๋ยวมันจะอึดอัด เลยจัดการเปลี่ยนชุดท่อไอเสียซะใหม่เป็นท่อสเตนเลสของ BORA จากอเมริกาอีกเช่นกัน ผลทำให้การคายไอเสียของท่อทำได้โล่งขึ้น

          เครื่องยนต์ตัวนี้ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพื่อช่วยควบคุมระบบ PCM (POWER CONTROL MODULE) เพื่อเพิ่มแรงบิดและแรงม้าให้มากขึ้น และมีความสัมพันธ์กับการใช้งานด้วยการติดตั้งชิพที่เป็นของ JET PERFORMANCE COMPUTER CHIP STATE 1 และสุดท้ายในเรื่องของระบบจุดระเบิดได้ทำการเปลี่ยนสายหัวเทียนจากเดิมมาใช้ของ SPRITFIRE รุ่น TRIPLE PLATINUM ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ให้ดียิ่งขึ้น จากที่ทำมาทั้งหมดนี้ทำให้เครื่องยนต์มีแรงม้าเพิ่มเป็น 200 กว่าตัวเลยทีเดียว
ระบบส่งกำลังที่พร้อมลุยเต็มอัตราศึก

         ผ่านไปกับเรื่องของเครื่องยนต์ คราวนี้ลองมาดูกันที่ระบบส่งกำลังกันว่าได้ทำอะไรลงไปบ้าง เริ่มจากเพิ่มความแข็งแรงให้กับเพลาส่งกำลัง ลดการสึกหรอ และเพิ่มแรงบิดอีกกว่า 54 % SLIP YOKE ELIMINATOR จัดการเปลี่ยนเพลาขับสำหรับ OUT PUT SHAFT ให้กับ NV 231 เป็นของ DANA SPICER รวมถึงเพลากลางที่เป็นแบบ U JOINTเปลี่ยนใหม่มาใช้แบบ CV JOINT DRIVE SHAFT ที่เป็นของ DANA SPICER เช่นกัน ผลที่ได้คือช่วยเพิ่มการให้ตัวและให้ความแข็งแรง และมีความยืดหยุ่นที่ดี
        

         ยังไม่หมดเท่านี้ ในคันนี้ยังได้เพิ่มสมรรถนะการส่งกำลังให้สามารถทนแรงบิดได้ดีขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า ด้วยการเปลี่ยนชุดกากบาทใหม่ของ CTM ซึ่งเป็นแบบ BUSH ในส่วนของเพลาข้างทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้เปลี่ยนมาใช้เป็นแบบ HIGH STRENGTH ALLOY 4340 ของยี่ห้อ SUPERIOR และ WARN เปลี่ยนอัตราทดของเฟืองท้ายใหม่ทั้งหมดเป็น DIFFERENTIAL RATIO ขนาด 4.88 ของ DANA ติดตั้งแอร์ล็อกเกอร์ และปั๊มลม ของ ARB ป้องกันการหมุนฟรีของล้อได้ถึง 100%
ความสูงที่เพิ่มขึ้นแต่มีประสิทธิภาพที่ดี

         ทีนี้มาถึงในเรื่องของระบบช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยว มาดูที่ช่วงล่างกันก่อน เสริมความสูงตัวถังรถด้วยการใช้ชุดล่วงล่างของ SKY JACKER เป็นชุด ROCK READY 6 นิ้ว ช่วยทำให้รถมีความสูงเพิ่มขึ้นอีก 6 นิ้ว เพิ่มความสามารถในการปีนป่าย และการให้ตัวได้มากกว่าเดิมถึง 80% ในที่นี้ยังรวมไปถึงการใส่โช้คอัพแก๊ส คอยล์สปริง SUB FRAME และโช้คกันสะบัดครบชุดที่เป็นของ SKY JACKER ในส่วนของกันโคลงนั้นใช้ของ JKS SWAY BAR รุ่น QUICK DISCONNECT สามารถใช้งานได้ทั้งในทาง ON ROAD และ OFF ROAD มีการให้ตัวที่ดีและมีความทนทาน
เมื่อแต่งรถให้สูงขึ้นก็ต้องทำการ DROP PITMAN ARM ลงมาเพื่อชดเชยช่วยลดองศาการทำงานของลูกหมากคันส่งให้น้อยลง และลดอาการ BUMP STEERING เพื่อป้องกันกระปุกพวงมาลัยแตกและตัวถังร้าว ด้วยชุด DROP PITMAN ARM ของ SKY JACKER
ส่วนในด้านของระบบบังคับเลี้ยวนั้นรถคันนี้ได้เปลี่ยนกระปุกพวงมาลัย และปั๊มพวงมาลัย (ปั๊มเพาเวอร์) เพื่อให้สัมพันธ์กับขนาดของยางที่ใหญ่ขึ้น และลดแรงกระแทกที่มากขึ้น

         อุปกรณ์เสริมเพื่อช่วยป้องกัน
มาดูกันที่อุปกรณ์เสริมกันบ้าง เริ่มกันที่กันชนหน้าเป็นอย่างแรก JEEP คันนี้เลือกใช้กันชนในส่วนของด้านหน้าที่แข็งแกร่ง และทนทานของ HANDSOM ENTERPRISE จากประเทศสหรัฐอเมริกา ในส่วนของกันชนหลังนั้นได้สั่งพิเศษจาก ROCK CRUSHER รุ่น EXTREMA HEAVY DUTY ที่สามารถรองรับที่แขวนยางขนาดใหญ่ ส่วนการป้องกันชิ้นส่วนต่างๆ (GUARD) เพื่อกันการเสียหายนั้น ไม่ว่าจะเป็น การ์ดป้องกันถังน้ำมัน (รุ่น SKID PLATE) การ์ดป้องกันกระปุกพวงมาลัย การ์ดป้องกันการกระแทกอ่างน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ และป้องกันเกียร์ TRANSFER CASE คันนี้เลือกใช้ของ SKID ROLL จาก SKID PLATE AUTO MOTIVE

         รถ JEEP คันนี้ยังไม่เหมือนใครตรงที่มีการติดตั้งกระจกไฟฟ้า (POWER LOCK) เข้าไปอีกด้วยเพื่อความสะดวกสบายในการเปิด-ปิดกระจก แถมท้ายด้วย SWAY BAR DISCONNECT ของ JKSWINCH ของ RAMSEY รุ่น PLATINUM ขนาด 9,500 ปอนด์ ทั้งแข็งแรง และกินไฟน้อย เพื่องานฉุดลากรถ เพิ่มชุดไฟส่องสว่างในการเดินทางในถิ่นทุรกันดารที่มืดมิด ด้วยไฟสปอทไลต์ของ WARN รถคันนี้ยังมีการติดตั้ง SPEED CALIBRATOR ของ SUPER LIFT เพื่อใช้ในการปรับแต่งค่าความเร็วให้เป็นจริง เพราะรถที่ใส่ยางที่มีขนาดใหญ่ ย่อมมีอัตราทดของระบบวัดความเร็วที่คลาดเคลื่อนไปด้วย อุปกรณ์ตัวนี้ช่วยให้การปรับแต่งค่าการแสดงผลความเร็วได้ตามจริง
         ล้อโต และแม็กใหม่
ล้อเป็นอีกส่วนที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าส่วนอื่น นอกจากจะทำให้รถดูดีและสวยแล้ว การเลือกใช้ล้ออะลูมิเนียม หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า
ล้อแม็ก? ที่ดีย่อมมีผลกับเรื่องของความปลอดภัยในขณะขับขี่อีกด้วย ล้อที่ JEEP คันนี้เลือกคบด้วยเป็นล้อของ MICKY TOMPSON ขนาด 10/12 R 15 ปกป้องล้อแม็กด้วยยาง TSL BOGGER SUPER SWAMPER ขนาด 35 X14 55-15 LT
เรียกกันได้ว่ารถ JEEP WRANGLER TJ. SAHARA 2001 ฝีมือ GMC-FORCE WORKSHOP คันนี้ดูดุดันพร้อมลุยเต็มที


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น